ตั้งกระทู้ใหม่ เอาคลิปมาฝากค่ะ ลองดูคลิปนี้นะค่ะ แล้วจะ เข้าใจ อริยสัจ4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค [ 8]) ฝากคลิปไว้ที่ ข้อความที่1นะคะ ด้านล่างเลย #อริยสัจ 4 #มรรคมีองค์8 Noodle 29 ก. ค. 60 เวลา 20:43 น. รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน แสดงความคิดเห็น 1 ความคิดเห็น 29 ก. 60 เวลา 21:01 น. 1 อริยสัจ4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค มี[8] หนทางแห่งการดับทุกข์ 8 ประการ ขออภัยที่ลงคลิปล่าช้าาาาค่ะ 0 รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน แจ้งลบความคิดเห็น คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่? บทความที่คนนิยมอ่านต่อ
หน้าหลัก > พจนานุกรมทั้งหมด > แปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน > มรรค มรรค มรรค มรรค- มรรคา [มัก มักคะ- มันคา] น. ทาง เหตุ ใช้คู่กับ ผล ว่า เป็น มรรค เป็นผล ในพระพุทธศาสนา เป็นชื่อแห่งโลกุตรธรรม คู่กับ ผล มี ๔ ชั้น คือ โสดาปัตติมรรค สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตมรรค ทางที่จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ เป็น ๑ ในอริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เรียกเต็มว่า มรรคมีองค์ ๘ ประกอบด้วย สัมมาทิฐิ - ความเห็นชอบ ๑ สัมมาสังกัปปะ - ความดำริชอบ ๑ สัมมาวาจา - การเจรจาชอบ ๑ สัมมากัมมันตะ - การงานชอบ ๑ สัมมาอาชีวะ - การเลี้ยงชีวิตชอบ ๑ สัมมาวายามะ - ความพยายามชอบ ๑ สัมมาสติ - ความระลึกชอบ ๑ สัมมาสมาธิ -ความตั้งใจชอบ ๑ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัชฌิมาปฏิปทา คือ ทางสายกลาง. (ส. มารฺค ป. มคฺค). [มัก มักคะ- มันคา] น. ทาง เหตุ ใช้คู่กับ ผล ว่า เป็นมรรคเป็นผล ในพระพุทธศาสนา เป็นชื่อแห่งโลกุตรธรรม คู่กับ ผล มี ๔ ชั้น คือ โสดาปัตติมรรค สกทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตมรรค ทางที่จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ เป็น ๑ ในอริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เรียกเต็มว่า มรรคมีองค์ ๘ ประกอบด้วย สัมมาทิฐิ - ความเห็นชอบ ๑ สัมมาสังกัปปะ - ความดำริชอบ ๑ สัมมาวาจา - การเจรจาชอบ ๑ สัมมากัมมันตะ - การงานชอบ ๑ สัมมาอาชีวะ - การเลี้ยงชีวิตชอบ ๑ สัมมาวายามะ - ความพยายามชอบ ๑ สัมมาสติ - ความระลึกชอบ ๑ สัมมาสมาธิ -ความตั้งใจชอบ ๑ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัชฌิมาปฏิปทา คือ ทางสายกลาง.
บางคนอาจจะรู้แล้วว่า มรรค8 คือ อะไร บางคน อาจยังไม่รู้ หรือ รู้แล้วลืม แต่ วันนี้ เอามาฝากทุกคน อีกรอบ ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ และค่อยพิจารณาไปว่า เรามีมรรร8 หรือยัง มรรคมีองค์ 8 ในการดำเนินชีวิตและการประพฤติปฏิบัติธรรม มรรค 8 เริ่มต้นที่ สัมมาทิฏฐิคือความเห็นชอบความเข้าใจชอบเมื่อเราเริ่มที่จะเข้าใจอย่างไร มีความเห็นอย่างไรเราก็ย่อมคิดอย่างนั้น สัมมาสังกัปโป ความดำหริชอบ เรามีความคิดอย่างไรเราก็จะพูดอย่างนั้น สัมมาวาจา การพูดจาชอบ เมื่อพูดอย่างไร ก็จะกระทำอย่างนั้น สัมมากัมมันโต การงานชอบ เมื่อกระทำการอย่างไร ก็มีชีวิตอยู่กับสิ่งที่ทำอย่างนั้น. สัมมาอาชีโว การเลี้ยงชีวิตชอบ เมื่อมีชีวิตอยู่กับสิ่งใด (สิ่งที่พูด กรรมที่ทำ) ก็มีความเพียรอยู่กับสิ่งนั้น สัมมาวายาโม ความเพียรชอบ มีความเพียรอยู่กับสิ่งใดก็มีสติอยู่กับสิ่งนั้น สัมมาสติ ความระลึกชอบ มีสติเต็มรอบกับสิ่งใดจึงมีสมาธิกับสิ่งนั้น สัมมาสมาธิ ความตั้งใจมั่นชอบ สมาธิในองค์มรรคได้ตั้งมั่นขึ้นก็เพราะอาศัยความเห็นชอบเป็นองค์ตั้งต้น สัมมามรรคคือ มรรคมีองค์แปด เป็นมรรคคา ที่ต้องประกอบด้วยองค์แปดประการไม่ขาด ไม่เกิน สังยุตกันพอดีจึงเรียกว่า มรรคสมังคี ในอริยมรรค ถ้าเบื้องต้นเข้าใจผิด มรรคนั้นก็เป็นมิจฉามรรค.
9) ทีฑนิกาย ปาฏิกวรรค, มก. เล่ม 16 ข้อ 455 หน้า 442. MD 408 สมาธิ 8: วิปัสสนากัมมัฏฐาน
โคตรภูญาณ แปลว่า ญาณคร่อมโคตร คือ ระหว่างโคตรปุถุชนกับอริยชน ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นปุถุชนกับอริยชน เรียกไม่ได้ว่าเป็นปุถุชนหรืออริยชน เปรียบเหมือนคนข้ามฝั่งด้วยเรือเมื่อเทียบท่าแล้ว ขาข้างหนึ่งก้าวขึ้นอยู่บนบก อีกข้างหนึ่งยังอยู่ในเรือ หรืออีกอุปมาหนึ่งเหมือนสภาพของเวลาที่เราเรียกว่า สองสี ส่องแสงกึ่งกลางระหว่างความมืดกับ ความสว่าง ระหว่างกลางคืนกับกลางวัน 2. มรรคญาณ ญาณในมรรค มีโสดาปัตติมรรค เป็นต้น ญาณนี้จะทำหน้าที่ตัดกิเลสให้ขาด เหมือนยาเข้าไปทำลายหรือตัดโรค 3. ผลญาณ ญาณในผล คือ รู้ว่าผลแห่งการกำจัดกิเลสได้เป็นอย่างไร เป็นความสงบสุขอย่างไร เปรียบเหมือนความสุขของคนที่หายโรคแล้ว รู้ว่าโรคหายเด็ดขาดไม่เกิดขึ้นอีก 4. ปัจจเวกขณญาณ การพิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว และกิเลสที่ยังไม่ได้ละว่ามีจำนวนเท่าใด สำหรับพระอริยบุคคล 3 จำพวกแรก ส่วนพระอรหันต์พิจารณาเฉพาะกิเลสที่ละได้แล้วอย่างเดียว ไม่ต้องพิจารณากิเลสที่ยังไม่ได้ละ เพราะไม่มีกิเลสอะไรจะต้องละอีกแล้ว การที่ความสงบสุขอันเกิดจากการตัดกิเลสได้เป็นไปยั่งยืน ไม่ต้องคอยระวังเพื่อไม่ให้ เกิดขึ้นอีกนั่นเอง คือ นิพพาน แปลว่า ความดับสนิท เย็นสนิท ที่กล่าวนี้เป็นกระบวนการของอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 ซึ่งเป็นปฏิปทานำไปสู่ความดับทุกข์ หรือทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ------------------------------------------------------------ 8) สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค 19/10/33.