ตอนนี้เหรียญ USDT จะอยู่ที่ P2P wallet หากคุณต้องการเทรดไม่ว่าจะในตลาด Fait and Spot หรือ Future คุณจะต้องทำการโอนเหรียญไปยังกระเป๋าของตลาดนั้นๆซึ่งถ้าแปลงแล้วเราจะสามารถที่จะเลือกซื้อเหรียญดิจิตอลต่อไปได้ในทันที ค่าธรรมเนียม Binance P2P Binance P2P เรียกเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมจาก Maker สำหรับทุกๆ Order ที่ดำเนินการเสร็จสิ้น นี่คือภาพรวมของอัตราค่าธรรมเนียม Taker (Order ซึ่งเทรด ณ Market Price) 0 Maker (Order ที่เทรด ณ Limited Price) 0% – 0. 35% ขึ้นอยู่กับคู่เทรด Fiat Binance P2P รีวิว พันทิป ทางเลือกเพิ่มเติมในการลงทุน สมัครสมาชิก Binance ฟรี!! คลิก สมัครสมาชิก Binance ขุด Bitcoin ด้วยตัวเองได้เเล้ว!!
75 หมื่นล้านหยวน (1. 12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในช่วงสิ้นปี 2021 ก่อนที่จะมีการขยายโครงการนี้ไปยัง 23 เมืองของจีน ทว่าในเดือนเมษายน ธนาคารกลาง ยอมรับ ว่า โครงการนี้กำลังประสบปัญหาในแง่ของความสะดวก ความครอบคลุม นวัตกรรม ความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการศึกษาและแก้ไขเพิ่มเติม ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว จำนวนการโอนเงินเฉลี่ยของกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลส่วนบุคคลแต่ละรายการอยู่ที่ 335. 5 หยวน (52. 66 เหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งคิดเป็น 1. 4% ของ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรายปีของชาวจีนในปี 2021 ที่มา:
ก่อนที่เราจะเริ่มเทรด เราควรเข้าใจรูปแบบการเทรดก่อนว่าแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้เราเลือกได้เหมาะสมกับเราที่สุด ซึ่งวันนี้เราจะมาเรียนรู้การเทรดแบบ Spot กับ Future ไปด้วยกัน การเทรดแบบ Spot คืออะไร? Spot คือตลาดที่ผู้ซื้อและผู้ขายสกุลเงินดิจิทัลสามารถแลกเปลี่ยนกัน โดยได้รับสินค้าที่ส่งมอบเป็นสกุลเงินดิจิทัลจริงๆ โดยวิธีซื้อก็คือ เราต้องไปเปิดบัญชีกับ Exchange ต่างๆ ถ้าในไทยจะมี bitkub, satang pro, zipmex, bittaza ฯลฯ ส่วนต่างประเทศจะมี binance, coinbase, robinhood ฯลฯ การเทรดแบบ Future คืออะไร? ตลาดคริปโต Futures เป็นตลาดสำหรับซื้อขายสัญญาล่วงหน้า แต่ก็ยังอ้างอิงกับราคาเหรียญคริปโตในตลาด spot โดยปกติในแบบ spot จะมีแค่การ ซื้อถูกเพื่อขายในราคาแพงอย่างเดียว แต่ใน Futures เราจะสามารถขายแพงแล้วซื้อถูกได้ด้วย ซึ่งเราจะแบ่งประเภทออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. Long คือการที่เราเลือกว่าราคาจะขึ้น ถ้าราคาเป็นไปตามคาดเราก็จะได้กำไร 2.
มูลค่ายังผูกมัดกับเงิน Fiat ปฏิเสธไม่ได้ว่ามูลค่าของคริปโตและหุ้นยังจำเป็นต้องนำไปเทียบกับเงิน Fiat อย่างเงินบาท ดอลลาร์ หรือยูโร เพื่อให้การเปรียบเทียบมูลค่าเป็นไปได้โดยง่าย เพราะว่าเงิน Fiat ยังเป็นที่ถูกใช้งานกันอย่างกว้างขวาง 4. ซื้อ-ขายผ่านแอป หากเป็นคนที่เคยซื้อขายหุ้นหรือสินทรัพย์ประเภทอื่นอย่าง ทองคำ น้ำมัน หรือค่าเงินมาก่อน ก็น่าจะคุ้นเคยกับการใช้แอปพลิเคชั่นสำหรับการซื้อขายคริปโตเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้กราฟวิเคราะห์ราคา การส่งคำสั่งซื้อ-ขาย การใช้ Indicators ต่างๆนั้นแทบจะเหมือนกันทุกระเบียดนิ้ว ความแตกต่าง เมื่อเข้าใจในพื้นฐานที่เหมือนกันของทั้ง 2 สินทรัพย์ เรามาดูกันว่าสิ่งที่แตกต่างกันมีอะไรบ้างและเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน ดังต่อไปนี้ 1. ความมั่นคง หากลองเปรียบเทียบเรื่องของความผันผวนของราคาแล้ว นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็งกำไรต่างยอมรับว่าคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนที่มากกว่าหุ้น ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะการสร้างเหรียญคริปโตมีระยะเวลาที่สั้นกว่า เพราะความเป็น Open-source ของคริปโต ที่ใครก็ตามที่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมสามารถทำการคัดลอก Source Code และสร้างเป็นเครือข่าย Cryptocurrency ใหม่ขึ้นได้ ส่วนการที่จะเกิดหุ้นขึ้นมาตัวหนึ่ง จำเป็นต้องมีการยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประเมินความเสี่ยง บริษัทที่จะสามารถเข้ามาในตลาดหุ้นได้ก็จำเป็นต้องมีชื่อเสียงและความมั่นคงที่สูงในระดับหนึ่งถึงจะได้รับการยอมรับ 2.
Stock vs. Crypto: What Are the Differences? ผู้เขียน: Waranyu Suknantee | Nov 11 อีกหนึ่งคำถามที่คาใจนักลงทุนรุ่นใหม่และผู้ที่เพิ่งเข้ามาในวงการคริปโต หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินมาว่า "ถ้าอยากลงทุนให้ไปเล่นหุ้น" แต่เมื่อวงการคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มมีการแนะนำให้ไปลงทุนในคริปโตแทน ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าระหว่างหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซีในเชิงของการลงทุน มีจุดที่เหมือนกันและจุดที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ความเหมือน ก่อนที่เราจะไปดูว่าหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซีนั้นแตกต่างกันอย่าง เราต้องทำความเข้าใจถึงพื้นฐานที่เหมือนกันของสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทนี้เสียก่อน โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. ขับเคลื่อนโดยอุปสงค์ มูลค่าของทั้งคริปโตและหุ้นต่างขึ้นอยู่กับปัจจัยเดียวกันนั่นคือปริมาณอุปสงค์ หรือความต้องการซื้อของตลาดนั่นเอง การทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นหรือคริปโต เรียกว่าการ "เก็งกำไร" (Speculation) หรือก็คือการเลือกเข้าซื้อในช่วงราคาหนึ่ง รอให้ราคาสูงขึ้นในอนาคตเพื่อที่จะทำการขาย และทำกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย 2. ไอเดีย สมมติว่าหากเหรียญคริปโตเหรียญหนึ่งถูกสร้างขึ้นมาโดยมีไอเดียหรือจุดประสงค์ที่น่าสนใจ ก็ย่อมมีความต้องการซื้อหรืออุปสงค์ในเหรียญนั้นๆที่มากตาม เหมือนกับบริษัทที่มีผลประกอบการดีและพื้นฐานมั่นคงทำให้เป็นที่ต้องการของนักลงทุน ซึ่งความน่าสนใจนี้นี่เองที่จะทำให้ปริมาณอุปสงค์เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงลบและเชิงบวก ซึ่งรวมถึงข่าวสารต่างที่อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือตัวเหรียญด้ว 3.
เงินปันผล การซื้อหุ้นก็เหมือนกับการนำเงินของเราไปให้บริษัทใช้ลงทุน หากประสบผลสำเร็จ บริษัทก็จะแบ่งผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนหุ้นที่ถือ หรือที่เรียกว่าเงินปันผล (Dividend) แต่ในวงการคริปโต หากไม่ใช่การเก็งกำไรแล้ว การทำให้เหรียญที่มีงอกเงยสามารถทำได้โดยการขุด (Mining) สำหรับเครือข่ายคริปโตที่เป็นแบบ Proof-of-work เช่น Bitcoin, Ethereumโดยต้องลงทุนเพิ่มไปกับเครื่องขุดและค่าไฟ หรืออีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่าการ Stake เหรียญ สำหรับเครือข่ายแบบ Proof-of-Stake เช่น Polkadot, Stellar โดยต้องทำการล็อคเหรียญ (Staking) ที่ถือครองจำนวนหนึ่งลงบนเครือข่ายและรอรับผลตอบแทนจากการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม 3. เวลาซื้อขาย เนื่องจากหุ้นส่วนใหญ่มักจะสามารถซื้อขายได้เฉพาะช่วงที่ตลาดหุ้นเปิดทำการเท่านั้น บางที่อาจไม่สามารถซื้อขายได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ และตลาดก็มักจะปิดทำการในวันหยุดประจำชาติ แม้หุ้นจะสามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมงผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือ Futures แต่ช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวหนักๆก็มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเปิดทำการเป็นส่วนมาก ขณะที่ คริปโตเคอร์เรนซีคือ เครือข่ายที่ไม่มีตัวกลาง จึงไม่จำเป็นต้องรอให้คนใดคนหนึ่งเปิดให้บริการ การซื้อขายจึงเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ และไม่มีวันหยุดใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง 4.
ต้นทุนขั้นต่ำ การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมีต้นทุนขั้นต่ำที่ต่ำกว่าหุ้นอย่างมาก ยกตัวอย่าง Bitcoin นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเริ่มซื้อขั้นต่ำที่ 1 Bitcoin (ปัจจุบันราคาประมาณ 410, 000 บาทต่อ 1 Bitcoin) แต่สามารถซื้อในหน่วยย่อยได้ถึง 0. 00000001 Bitcoin หรือเรียกว่า 1 Satoshi (ประมาณ 0.
หนังสือพิมพ์ในเครือของสำนักข่าว Xinhua News Agency และ Economic Information Daily ได้ตีพิมพ์บทความเมื่อวันพฤหัสบดี (2 ส. ค. )
สมัครสมาชิก Binance ฟรี!
ล. ต มั่นใจได้ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยระดับโลก และทีมสนับสนุนที่พร้อมเคียงข้างคุณตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน เปิดบัญชีกับ Bitkub และเริ่มต้นเทรดคริปโตเคอร์เรนซีได้เลย ที่ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Bitkub ได้ทาง App Store และ Play Store สำหรับผู้สนใจเรามีคอร์สเรียนดีๆที่ทาง Bitkub Academy จัดให้กับผู้สนใจในคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชน ติดตามได้ทาง: Facebook Bitkub Academy: Reference: