2516 คณะแพทยศาสตร์ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารตรวจโรคผู้ป่วยและผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งอาคารผู้ป่วยพิเศษซึ่งเป็นอาคาร 6 ชั้น การก่อสร้างได้แล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ในปีพ. 2521 ทำให้สถานที่ตรวจโรคกว้างขวางมากขึ้น และสามารถเปิดรับผู้ป่วยพิเศษได้อีก 54 ห้อง ในปีพ. 2520 ได้รับงบประมาณก่อสร้างต่อเติมอาคารโรงพยาบาล ซึ่งจะมีห้องผ่าตัด ห้องคลอด ห้องเด็กแรกคลอด ห้องผู้ป่วยหนัก ห้องพักฟื้น ห้องทำลายเชื้อ ห้องทำน้ำยาปราศจากเชื้อ ห้องเก็บศพ ตลอดจนห้องทำงานภาควิชาวิสัญญีวิทยา รวมทั้งครุภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์ครบครัน ในวงเงิน 167 ล้านบาทเศษ การก่อสร้างต่อเติมตึกผ่าตัดใหม่นี้จะทำให้จำนวนห้องผ่าตัดเดิม 6 ห้อง เพิ่มเป็น 20 ห้อง ห้องคลอดเพิ่มขึ้นจนเพราะความต้องการ และห้องทำลายเชื้อ ซึ่งจะเป็นที่รวมCentral Supply ของโรงพยาบาลเป็นส่วนกลางและการทำการผลิตน้ำยาปราศจากเชื้อจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปีพ. 2521 คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่แหวนสุจิณฺโณได้มีเจตนาที่จะสร้างถาวรวัตถุเพื่อเป็นที่ระลึกต่อหลวงปู่ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วประเทศ ในวาระที่หลวงปู่แหวนสุจิณฺโณมีอายุครบ 90 ปี จึงได้สร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่แหวนสุจิณฺโณ รุ่น ภ.
ข้ามไปเนื้อหา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี โรงพยาบาลกลาง Bangkok Metropolitan Administration General Hospital ประเภท โรงพยาบาลตติยภูมิขั้นสูง ที่ตั้ง ถนนหลวง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100 ข้อมูลทั่วไป ก่อตั้ง 24 พฤษภาคม พ. ศ.
Written by duidui Wednesday, 30 March 2022 00:00 ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อ ปีการศึกษา 2565 ประเภทห้องเรียนทั่วไป ประกาศรายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกาศรายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประกาศรายชื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ประเภทโควต้า) **************************************** การชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา ***************************************** แบบฟอร์มการชำระค่าบำรุงการศึกษาผ่านเคาเตอร์ธนาคาร หลังจากชำระเงินแล้ว ให้แสดงหลักฐานการชำระเงิน ดังขั้นตอนต่อไปนี้ 1. เตรียมสลิปโอนเงิน หรือใบนำฝากค่าธรรมเนียมการศึกษา (ผ่านเคาเตอร์ธนาคาร) 2. วัดขนาดรอบอก รอบเอว (เตรียมอุปกรณ์สำหรับวัดตัว) เพื่อกรอกข้อมูลสั่งชุดพละและชุดพื้นเมืองโรงเรียน 3. กรอกข้อมูลแนบแนบหลักฐานการชำระเงิน แจ้งชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา ม. 1 แจ้งชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา ม. 4 แจ้งปฏิทินงานโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม Written by WEBMASTER Friday, 11 March 2022 19:11 วันแห่งความสำเร็จ ปีการศึกษา 2564 Saturday, 05 March 2022 00:00 โรงเรียนเชียงคำวิทยาคมขอแสดงความยินดีกับนักเรียน เนื่องในวันแห่งความสำเร็จของนักเรียนชั้นม.
โรงพยาบาลเชียงแสน มีเนื้อที่ 32 ไร่ 2 งาน 87 ตารางวา เป็นโรงพยาบาลชุมชน ขนาด ๖๐ เตียง ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๔ หมู่ ๖ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มีการจัดระบบให้บริการสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสภาพ ในเขตอำเภอเชียงแสน และอำเภอใกล้เคียง ตั้งแต่ปี พ. ศ. ๒๕๒๐ โดยก่อตั้งเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด ๑๐ เตียง ขยายเป็นโรงพยาบาลขนาด ๓๐ เตียง ในปี พ. ๒๕๓๕ และขยายเป็นโรงพยาบาลขนาด ๖๐ เตียง ในปี พ. ๒๕๔๒ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.
2495 นายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (ขุนสมานเวชชกิจ), ผู้แทนกรมอนามัย, ผู้แทนองค์การอนามัยโลก และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่(นายอุดม บุญประสพ) ได้ร่วมมือกันสร้างตึกสูติกรรม 2 ชั้น ยาว 45 เมตร กว้าง 8 เมตร รับผู้ป่วยได้ 52 เตียง โดยใช้ค่าก่อสร้าง 461, 330. 80 บาท งบประมาณจำนวนนี้ได้มาจากเงินผู้บริจาคให้โรงพยาบาล 109, 560. 25 บาท จากแผนกอนามัยหน่วยสงเคราะห์แม่และเด็ก 10, 455. 25 บาท จากอำเภอต่างๆของจังหวัดเชียงใหม่ 22, 719 บาท และเงิน ก. ส. ซึ่งกรมการแพทย์ขอมาได้ 300, 000 บาท การก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยในเดือนพฤษภาคม พ. 2496 องค์การอนามัยโลกจัดส่งอุปกรณ์ซึ่งประกอบด้วยเตียงผู้ป่วย พร้อมด้วยตู้ข้างเตียง 52 ชุด เตียงทำคลอด 1 เตียงและที่นอน 50 ผืน เพื่อใช้ในกิจการของอาคารผู้ป่วยสูติกรรมหลังนี้ ในปีพ.
96 บาท ต่อมา นายแพทย์ยง ชุติมา ได้อุทิศที่ดินติดกับโรงพยาบาล จำนวน 4 ไร่เศษ ทำให้บริเวณของโรงพยาบาลมีเนื้อที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าดูสวยงามขึ้น เมื่อก่อสร้างเสร็จสิ้นพอที่จะเปิดบริการผู้ป่วยได้ เทศบาลมีปัญหาในการจัดหาแพทย์มาปฏิบัติงาน จึงได้โอนโรงพยาบาลแห่งนี้ให้ไปสังกัดในกรมสาธารณสุขเมื่อปีพุทธศักราช 2484 และมอบเครื่องมือแพทย์ของโรงพยาบาลเก่าให้นำไปใช้ในโรงพยาบาลที่เปิดใหม่เกือบทั้งหมด พร้อมกับมีการตกลงให้ใช้ชื่อโรงพยาบาลว่า "โรงพยาบาลนครเชียงใหม่" และเปิดบริการผู้ป่วยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ. ศ. 2484 เมื่อปีพ. 2485 กรมสาธารณสุขได้โอนโรงพยาบาลนครเชียงใหม่ ให้ไปสังกัดกรมการแพทย์เพื่อดำเนินการต่อไปปัญหาในด้านบริการผู้ป่วยที่ตามมาก็คือพระภิกษุสามเณรอาพาธ ที่มารับบริการที่มารับการรักษาพยาบาลปะปนอยู่กับประชาชนทั่วไปนั้นเป็นการไม่สะดวก จึงได้ก่อสร้างตึกสงฆ์หลังแรกเมื่อปีพ. 2493 เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องรวมสำหรับผู้ป่วย 12 เตียง ชั้นบนเป็นห้องแยกมี 6 ห้อง ใช้เงินค่าก่อสร้าง 65, 000 บาท เมื่อรวมค่าเตียงและครุภัณฑ์อื่นๆด้วยแล้วคิดเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 304, 305. 56 บาท การก่อสร้างและจัดซื้อครุภัณฑ์ทั้งหมดนี้ได้จากเงินบริจาคของพ่อค้า คหบดี ในจังหวัดเชียงใหม่ และในโอกาสเดียวกันกรมการแพทย์ก็ได้โอนเงินช่วยเหลือของประธานาธิบดีทรูแมนแห่งสหรัฐอเมริกามาให้เพื่อก่อสร้างตึกเอกซเรย์ ห้องปฏิบัติการ และตึกผ่าตัด ในปี พ.